เคยสังเกตไหมครับ บางคนถึงแม้จะอายุมากแล้ว แต่พอดูแลตัวเองเป็นประจำ ก็สามารถที่จะแข็งแรง สุขภาพดี ดูอ่อนกว่าวัยได้ ในขณะเดียวกัน คนอายุน้อย ๆ ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว นอนดึกตื่นสาย ไม่กินอาหารเช้า คนกลุ่มนี้กลับจะแก่ก่อนวัยโดยไม่รู้ตัว แถมยังเจ็บป่วยง่ายกว่าผู้สูงอายุบางคนเสียอีก
สุขภาพของคนเราจะดีได้ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ รวมถึงพฤติกรรมของตัวเราเองด้วย แม้ 2 เรื่องแรกอาจจะเป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ แต่ในเรื่องของ “พฤติกรรม” เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ เพื่อสร้าง สุขภาพดี ได้ด้วยตัวเราเอง
อย่างแรกเลย อาหาร เพราะสิ่งสำคัญในการดูแลร่างกาย ไม่ได้อยู่ที่ “การกินอะไร” แต่คือการ “ไม่กินอะไร” ทุกวันนี้เรามักจะตามใจปากด้วยการกินแต่ของที่ทำลายสุขภาพเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เราจึงควรหันมาเลือกกินแต่ของที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผักและผลไม้ เพราะเป็นที่มาของสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทาน และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย ดังนั้น ยิ่งเรากินผักและผลไม้ได้หลากหลายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อร่างกายมากเท่านั้น
ส่วนโปรตีนแนะนำให้เลือกเป็นโปรตีนจากเนื้อปลาและเนื้อไก่ที่ไม่ติดมัน (พุงปลานี่ไม่นับนะครับ เพราะมีสัดส่วนของไขมันมากกว่าโปรตีน) ส่วนเนื้อแดงทั้งหลาย เช่น เนื้อหมูหรือเนื้อวัว ถ้าเป็นไปได้ให้กินให้น้อยลง เพราะเนื้อแดงจะไปเร่งการอักเสบของเซลล์ เช่นเดียวกับอาหารแปรรูปอื่น ๆ และอาหารที่ใส่สารปรุงแต่งเยอะ ๆ (Processed food) เช่น ไส้กรอกและเบคอน
สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มน้ำหวานก็ให้เปลี่ยนมาดื่มน้ำสมุนไพรแทน เช่น น้ำขิง น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาวและน้ำดอกคำฝอย เพราะช่วยในเรื่องการเผาผลาญพลังงาน แต่ก็ต้องระวังเรื่องน้ำตาลด้วยนะครับ ถ้ากินหวานมากไปก็จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้อีกเหมือนกัน เพราะน้ำตาลจะไปเร่งกระบวนการการเสื่อมของร่างกาย ทำให้แก่เร็ว
ต่อมาก็คือ การออกกำลังกาย ควรทำให้ได้อย่างน้อย 150 – 200 นาทีต่อสัปดาห์ โดยผสมผสานกันทั้งการออกกำลังแบบคาร์ดิโอซึ่งดีต่อหัวใจและสมอง เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน ควบคู่ไปกับการออกกำลังเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ หรือเวทเทรนนิ่ง เพราะจะช่วยเรื่องการลดลงของมวลกล้ามเนื้อเมื่ออายุมากขึ้น
การนอนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเอง รวมถึงเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนต่าง ๆ จะออกมาทำงานและปรับสมดุลในร่างกาย ดังนั้น เราจึงควรเข้านอนให้เป็นเวลา และควรเตรียมตัวก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยการงดเล่นโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงงดคิดเรื่องงานหรือเรื่องที่จะทำให้เครียดด้วย
และเคล็ดลับสุดท้าย ก็คือการดูแลนาฬิกาชีวิตของตัวเองนี่แหละครับ
‘นาฬิกาชีวิต’ คือ นาฬิกาที่อยู่ในร่างกายของคนเราที่จะทำหน้าที่คอยบอกว่า เวลานี้เราควรทำอะไร เช่น ตอนนี้ตอนเช้า เราควรตื่นขึ้นมาได้แล้ว ตอนนี้ตอนกลางคืน เราควรเข้านอน เพื่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมาเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้จะทำงานอย่างเป็นระบบร่วมกับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ แต่ทั้ง ๆ ที่รู้ คนเราก็ยังมักจะชอบทำอะไรที่ขัดกับนาฬิกาชีวิต ทำให้ระบบการทำงานในร่างกายแย่ลง แถมยังทำให้เราแก่เร็วขึ้นอีกด้วย
ที่สำคัญนอกจาก ดูแลสุขภาพร่างกาย ให้มี สุขภาพดี ก็อย่าลืมให้ ‘คอลบาเด้นท์’ ดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของคุณด้วยนะครับเพื่อฟันแข็งแรงและเหงือกแน่นกระชับ อยู่คู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน
#คอลบาเด้นท์ #ดีต่อเหงือก #ดีต่อฟัน #ดีต่อใจ